ควรเติมลม ยางรถยนต์ เท่าไร ? วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลที่น่าเชื่อถือมาให้คุณได้ใช้ประกอบการตัดสินใจก่อนที่จะเติมลมยางกัน
เติมลมยางสูงสุดได้ที่เท่าไร ?
สามารถดูได้จากตัวเลขบนแก้มยางของคุณ ที่เป็นอักษรตัวหนาที่พิมพ์โดยผู้ผลิตยาง ตัวอย่างเช่น คุณอาจสังเกตเห็นคำว่า "Max. Press. 51 PSI." ตัวเลขนี้จะบอกถึงแรงดันลมยางที่รถยนต์ของคุณต้องการเพื่อรับน้ำหนักสูงสุด
นอกจากนี้ความเย็นของยางในตอนเติมลมก็ถือว่ามีส่วนสำคัญ เพราะนั่นหมายความว่าคุณกำลังเติมลมยางในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งควรจะเติมช่วงเช้าหรือหลังจากรถอยู่ในที่ร่ม 2-3 ชั่วโมงจะได้ผลดีที่สุด
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณเติมลมยางแข็งไป ?
แม้จะรู้สึกถึงการตอบสนองไวกว่า และทำให้รถออกตัวได้ดีขึ้น ทว่าอาจจะไปลดทอนประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน โดยเฉพาะทางโค้งรวมถึงการเบรก และทำให้อายุการใช้งานของยางของคุณลดลง
รวมถึงมีความยืดหยุ่นน้อยลงทำให้รู้ถึงการสะเทือนหรือกระแทกได้มากกว่า ซึ่งเป็นสาเหตุให้ระบบกันสะเทือนของรถทำงานหนัก และมีโอกาสชำรุดเสียหายได้
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณเติมลมยางอ่อนไป ?
แม้จะรู้สึกถึงความนุ่มนวลเวลาขับขี่ แต่มันก็ตอบสนองช้าลง และทำให้เครื่องยนต์ต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อเร่งให้รถพุ่งไปข้างหน้า ซึ่งเป็นสาเหตุให้คุณต้องสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่าปกติ
นอกจากนี้ก็อาจทำให้แก้มยางบิดตัวจนเกิดความร้อนมากขึ้น และแรงดันในลมยางจะขยายตัวมากขึ้น อาจทำให้ยางผิดรูป ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการระเบิดได้
แล้วความดันลมยางที่เหมาะสมกับรถของคุณคืออะไร ?
แรงดันลมยางที่เหมาะสมหรือที่แนะนำจากผู้ผลิตรถยนต์นั้น คุณสามารถเติมลมยางรถยนต์ได้ตามสเปกของรถคุณที่คู่มือของรถนั้น ๆ ให้มา หรือดูได้ง่าย ๆ จากด้านข้างของประตูรถ หรือบางรุ่นจะเป็นสติ๊กเกอร์ที่แปะไว้บนฝากระโปรงหลัง
แรงดันลมยางโดยทั่วไปของรถเก๋ง และรถกระบะ
รถเก๋งขนาดเล็ก : 25-30 ปอนด์
รถเก๋งขนาดกลาง-ใหญ่ : 30-35 ปอนด์
รถกระบะ : ไม่ควรเกิน 65 ปอนด์
ในบางกรณีที่ต้องขับระยะทางไกลหรือบรรทุกหนักควรเพิ่มลมยางจากเดิมอีกประมาณ 3-5 ปอนด์ แต่ไม่ควรให้เกิน Max Press ที่ระบุไว้บนแก้มยาง
อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญของความดันลมยางที่เหมาะสมกับรถของคุณนั้นก็ขึ้นอยู่กับขนาดยาง ขนาดรถ ประเภทของรถ และลักษณะการขับของแต่ละคนด้วย