เราจึงอยากให้ทุกคนระมัดระวังการวางสิ่งของในรถดังนี้ค่ะ
1.กระป๋องสเปรย์
กระป๋องสเปรย์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นสเปรย์น้ำหอมปรับอากาศ, สเปรย์ฆ่าแมลง, สเปรย์ซิลิโคน ฯลฯ ล้วนแต่มีแรงดันอัดอยู่ภายในกระป๋อง หากได้รับความร้อนสะสมเป็นระยะเวลานาน แรงดันก็จะค่อยๆ เพิ่มจนทำให้เกิดการระเบิดได้ ซึ่งแรงระเบิดก็มากพอที่จะทำให้กระจกรถแตกละเอียด รวมถึงสารที่อยู่ภายในกระป๋องยังกระจายไปทั่วห้องโดยสารจนได้รับความเสียหายอีกต่างหาก
2.ขวดและกระป๋องน้ำอัดลมที่ยังไม่ได้เปิด
ข้อนี้เป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม เนื่องจากน้ำอัดลมเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมสำหรับแก้ง่วงในขณะเดินทาง แต่น้ำอัดลมไม่ว่าจะเป็นแบบขวดหรือกระป๋อง หากเผลอทิ้งไว้ในรถที่ร้อนจัด ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะขยายตัวออกจนทำให้เกิดการระเบิดได้ ซึ่งแรงระเบิดก็มากพอที่จะทำให้กระจกรถแตกเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังเคยมีข่าวว่าน้ำนมถั่วเหลืองในรูปแบบขวดแก้ว ก็สามารถระเบิดได้แม้ว่าไม่ได้จอดรถทิ้งไว้กลางแดดก็ตาม ซึ่งขณะนั้นมีผู้สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากนมเน่าเสียจนเกิดเป็นก๊าซ กลายเป็นแรงดันมากพอที่ทำให้ขวดระเบิดในที่สุด
3.ไฟแช็ก
ภายในไฟแช็กจะบรรจุของเหลวจำพวกบิวเทนหรือแนฟทา ซึ่งมีแรงดันอยู่ภายใน ยิ่งหากเป็นไฟแช็กที่ผ่านการใช้งานมานาน มีปริมาณของเหลวเหลือน้อย ส่งผลให้มีที่ว่างมากพอที่จะสะสมแก๊สแล้วเกิดการขยายตัวจนระเบิดในที่สุด จึงควรหลีกเลี่ยงการทิ้งไฟแช็กไว้ในรถขณะจอดกลางแดด
4.เพาเวอร์แบงค์
แม้ว่าเพาเวอร์แบงค์ในปัจจุบันจะถูกพัฒนาให้มีความปลอดภัยสูง แต่หากเป็นเพาเวอร์แบงค์ราคาถูกที่มีคุณภาพต่ำ ผ่านการใช้งานมาเป็นระยะเวลานาน หรือผ่านการตกหล่นเสียหายมาแล้ว ก็มีสิทธิ์ที่จะเกิดระเบิดขณะทิ้งไว้ในรถร้อนๆ ได้เช่นกัน เนื่องจากลิเธียมที่อยู่ภายในเพาเวอร์แบงค์เป็นโลหะที่ไวต่อปฏิกิริยาทางเคมี จนทำให้เกิดการลัดวงจรนั่นเอง
5.สีเทียน, ยางลบ
บ้านใครที่มีเด็กเล็กอยู่ในวัยที่ชอบขีดเขียน ก็ไม่ควรเก็บสีเทียนและยางลบทิ้งไว้ในรถโดยเด็ดขาด เนื่องจากสีเทียนอาจจะลายจนทำให้อุปกรณ์ภายในรถเกิดความเสียหาย ส่วนยางลบก็มีตัวทำละลายพลาสติก อาจทำให้ชิ้นส่วนที่เป็นพลาสติก เช่น แผงคอนโซล, ที่วางแก้ว ฯลฯ เกิดความเสียหายได้เช่นกัน